ฟิวเจอร์ส: การเทรดด้วย Margin คืออะไร
This article is based on content from คุณสมบัติเฉพาะของแพลตฟอร์มฟิวเจอร์ส: การประเมินมาร์จินและการป้องกันความเสี่ยง.
- ฟิวเจอร์ส: การเทรดด้วย Margin คืออะไร
บทนำ
ฟิวเจอร์ส (Futures) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโลกของการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี การเทรดฟิวเจอร์สมีความแตกต่างจากการซื้อขายแบบ Spot อย่างชัดเจน เนื่องจากมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับการใช้ “Margin” หรือ เงินทุนหลักประกัน (Collateral) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเทรดฟิวเจอร์ส บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับฟิวเจอร์ส, การเทรดด้วย Margin, ความเสี่ยง, และสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ควรทราบก่อนเริ่มต้น
ฟิวเจอร์สคืออะไร?
ฟิวเจอร์สคือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่กำหนดราคาและปริมาณของสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ที่จะทำการซื้อขายในวันที่กำหนดในอนาคต สินทรัพย์อ้างอิงนั้นอาจเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) เช่น น้ำมัน ทองคำ หรืออาจเป็นดัชนีหุ้น (Stock Indices) หรือคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH)
- **สัญญามาตรฐาน:** ฟิวเจอร์สมีข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐาน เช่น จำนวนสัญญา, คุณภาพของสินทรัพย์อ้างอิง และวันที่ครบกำหนดสัญญา
- **ตลาดซื้อขาย:** ฟิวเจอร์สซื้อขายในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ฟิวเจอร์ส (Futures Exchange) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขาย
- **การเก็งกำไร:** นักลงทุนสามารถใช้ฟิวเจอร์สเพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิง หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากการเปลี่ยนแปลงราคา
Margin คืออะไร?
Margin หรือ เงินทุนหลักประกัน คือจำนวนเงินที่นักลงทุนต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เพื่อเปิดสถานะ (Position) ในตลาดฟิวเจอร์ส Margin เปรียบเสมือนเงินมัดจำที่แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ตามสัญญา หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ นักลงทุนอาจต้องเติม Margin เพิ่มเติม (Margin Call) เพื่อรักษาตำแหน่งไว้
- **Leverage (ตัวคูณ):** การเทรดด้วย Margin ช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้ Leverage หรือ ตัวคูณ ซึ่งช่วยเพิ่มขนาดของ Position ที่สามารถควบคุมได้ด้วยเงินทุนจำนวนน้อย Leverage สามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนด้วยเช่นกัน
- **Initial Margin (Margin เริ่มต้น):** จำนวนเงินที่ต้องฝากเพื่อเปิด Position
- **Maintenance Margin (Margin ขั้นต่ำ):** จำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องมีในบัญชีเพื่อรักษา Position ไว้ หากมูลค่าของบัญชีลดลงต่ำกว่า Maintenance Margin จะเกิด Margin Call
- **Margin Call:** การแจ้งเตือนจากโบรกเกอร์ให้นักลงทุนเติมเงินเข้าบัญชีเพื่อเพิ่ม Margin
การคำนวณ Margin
การคำนวณ Margin จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสินทรัพย์อ้างอิง, โบรกเกอร์, และ Leverage ที่เลือกใช้ โดยทั่วไปแล้ว การคำนวณ Margin จะมีสูตรดังนี้:
Margin = มูลค่าสัญญา / Leverage
ตัวอย่าง:
- สมมติว่าคุณต้องการซื้อสัญญา Bitcoin Futures ที่มีมูลค่า 100,000 บาท
- คุณเลือกใช้ Leverage 10x
- ดังนั้น Margin ที่คุณต้องฝากคือ 100,000 บาท / 10 = 10,000 บาท
ประเภทของ Margin
- **Initial Margin:** เป็น Margin ที่ต้องจ่ายเมื่อเปิด Position ใหม่ เป็นเงินจำนวนหนึ่งที่โบรกเกอร์กำหนดเพื่อเป็นหลักประกันเบื้องต้น
- **Maintenance Margin:** เป็น Margin ขั้นต่ำที่ต้องรักษาไว้ในบัญชี หากมูลค่าของ Position ลดลงจนใกล้เคียงกับ Maintenance Margin โบรกเกอร์จะส่ง Margin Call เพื่อให้คุณเติมเงิน
- **Variation Margin:** เป็น Margin ที่ต้องจ่ายเพิ่มหรือรับคืนตามการเปลี่ยนแปลงของราคา หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อ Position ของคุณ คุณจะต้องจ่าย Variation Margin เพิ่มเติม
ความเสี่ยงในการเทรดฟิวเจอร์สด้วย Margin
การเทรดฟิวเจอร์สด้วย Margin มีความเสี่ยงสูงกว่าการซื้อขายแบบ Spot เนื่องจาก Leverage สามารถขยายผลกำไรและผลขาดทุนได้เช่นกัน
- **Margin Call:** หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ คุณอาจต้องเติม Margin เพิ่มเติม หากไม่สามารถทำได้ Position ของคุณอาจถูกบังคับชำระ (Liquidation)
- **Liquidation (การชำระบัญชี):** เมื่อบัญชีของคุณมี Margin ต่ำกว่า Maintenance Margin โบรกเกอร์มีสิทธิ์ที่จะบังคับชำระ Position ของคุณเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม การชำระบัญชีจะเกิดขึ้นโดยการขายสินทรัพย์อ้างอิงในตลาด
- **Volatility (ความผันผวน):** ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจทำให้เกิด Margin Call ได้อย่างรวดเร็ว
- **ความเสี่ยงจาก Leverage:** Leverage เป็นดาบสองคมที่สามารถเพิ่มผลกำไรและผลขาดทุนได้
ข้อดีและข้อเสียของการเทรดฟิวเจอร์สด้วย Margin
| ข้อดี | ข้อเสีย | | ----------------------------------- | ---------------------------------------- | | Leverage สูง | ความเสี่ยงสูง | | สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง | Margin Call และ Liquidation | | ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ | ต้องมีความรู้และความเข้าใจในตลาด | | สามารถป้องกันความเสี่ยงได้ (Hedging) | ความผันผวนของตลาดอาจส่งผลเสีย | | มีสภาพคล่องสูง | ค่าธรรมเนียมการเทรดอาจสูงกว่าการซื้อขาย Spot |
การเลือกโบรกเกอร์ฟิวเจอร์ส
การเลือกโบรกเกอร์ฟิวเจอร์สที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
- **ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้
- **ค่าธรรมเนียม:** เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการเทรด, ค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอน, และค่าธรรมเนียมอื่นๆ
- **แพลตฟอร์มการเทรด:** เลือกแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย, มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน, และรองรับการเทรดบนหลากหลายอุปกรณ์
- **Leverage:** พิจารณา Leverage ที่โบรกเกอร์เสนอให้
- **สินทรัพย์อ้างอิง:** ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีสินทรัพย์อ้างอิงที่คุณสนใจเทรดหรือไม่
- **คุณสมบัติเฉพาะของแพลตฟอร์มฟิวเจอร์ส: การประเมินมาร์จินและการป้องกันความเสี่ยง** [1]
กลยุทธ์การเทรดฟิวเจอร์สด้วย Margin
- **Trend Following (ตามแนวโน้ม):** ระบุแนวโน้มของราคาและเปิด Position ในทิศทางเดียวกับแนวโน้ม
- **Breakout Trading (การเทรดเมื่อราคา Breakout):** รอให้ราคา Breakout จากระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ
- **Mean Reversion (การกลับสู่ค่าเฉลี่ย):** คาดการณ์ว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ยในระยะยาว
- **Arbitrage (การเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา):** ซื้อและขายฟิวเจอร์สในตลาดที่แตกต่างกันเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา
การจัดการความเสี่ยงในการเทรดฟิวเจอร์ส
- **Stop-Loss Orders (คำสั่งขายเมื่อขาดทุน):** ตั้ง Stop-Loss Order เพื่อจำกัดผลขาดทุนหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์
- **Take-Profit Orders (คำสั่งขายเมื่อได้กำไร):** ตั้ง Take-Profit Order เพื่อล็อคผลกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย
- **Position Sizing (ขนาดของ Position):** กำหนดขนาดของ Position ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณรับได้
- **Diversification (การกระจายความเสี่ยง):** กระจายการลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงที่หลากหลาย
- **การชำระบัญชีฟิวเจอร์ส: ความสำคัญของราคาชำระบัญชีและอัตราการระดมทุน** [2]
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือการศึกษาข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีตเพื่อทำนายแนวโน้มราคาในอนาคต เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ เส้นแนวโน้ม (Trend Lines), แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance), และ Indicators ต่างๆ เช่น Moving Averages, RSI, และ MACD
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) คือการศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง เช่น ข่าวสารทางเศรษฐกิจ, การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ, และความต้องการของตลาด
- **วิเคราะห์ความผันผวนฟิวเจอร์ส ETH แบบถาวรด้วยเครื่องมือทางเทคนิค** [3]
สรุป
การเทรดฟิวเจอร์สด้วย Margin เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนมือใหม่ควรศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนเริ่มต้นเทรด ควรเริ่มต้นด้วยการใช้ Leverage ต่ำ และใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ
คำเตือน
การเทรดฟิวเจอร์สมีความเสี่ยงสูง โปรดลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถยอมรับการสูญเสียได้
Recommended Futures Trading Platforms
Platform | Futures Features | Register |
---|---|---|
Binance Futures | Leverage up to 125x, USDⓈ-M contracts | Register now |
Bybit Futures | Perpetual inverse contracts | Start trading |
BingX Futures | Copy trading | Join BingX |
Bitget Futures | USDT-margined contracts | Open account |
BitMEX | Up to 100x leverage | BitMEX |
Join Our Community
Subscribe to @cryptofuturestrading for signals and analysis.